งานพาสทามขอแนะนำเรื่อง "เตือนใจก่อนบริจาค คนใจบุญควรรู้อะไร" ว่าด้วยเรื่องบริจาคของคนไทยใจบุญ ต่อจากนี้ต้องพิจารณาให้ดี จากกระแสข่าววงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่ขอความอนุเคราะห์จากภาคเอกชนในเรื่องค่าใช้จ่าย สำหรับเดินทางไปแข่งขันวงโยธวาทิตระดับโลก นำไปสู่การรวมตัวขอเงินจาก "ตัน ภาสกรนที" นักธุรกิจชื่อดังกว่า 3.1 ล้านบาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่อนเน็ต ซึ่งจากกระแสความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของวงโยธวาทิตดังกล่าว ได้มีการขุดคุ้ยเรื่องราวความไม่ชอบมาพากลออกมาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเรื่องนี้คงจะไม่จบลงง่ายๆ
เรื่องดังกล่าว สะท้อนถึงการบริจาคเงินของคนไทยใจบุญ ต่อจากนี้ต้องพิจารณาให้ดี
อย่างไรก็ตาม ในหลายๆครั้ง เราจะเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ เตือนภัยการบริจาค เรี่ยไรเงิน ที่มาในนามขององค์กร มูลนิธิการกุศลต่างๆ อยู่เสมอ เมื่อเป็นเช่นนี้ การจะบริจาคเงินให้ไปถึงผู้รับและได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงนั้น ควรทำอย่างไร? “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้ติดต่อสัมภาษณ์ นายอัญวุฒิ โพธิอำไพ รองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู ถึงการบริจาคเงิน ย้ำเตือนถึงคนใจบุญควรต้องระวัง!
ในการพูดคุย เดลินิวส์ออนไลน์ยกกรณีการบริจาคเงินให้มูลนิธิ ซึ่งนายอัญวุฒิ เผยว่า ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิปอเต็กตึ้งนั้น มีนโยบายที่สำคัญตรงกัน คือ การไม่รับบริจาคนอกเหนือจากที่สำนักงานของมูลนิธิ ไม่ว่าจะเป็นการถือกล่อง หรือนำรถไปตามจุดถนน หรือสถานที่ต่างๆ เพื่อเรี่ยไรเงิน ถ้าพบเห็นเช่นนั้น ให้ถือได้ว่าเป็นการแอบอ้าง โดยสังเกตได้ว่า กลุ่มคนเหล่านั้นจะอยู่ในแต่ละจุดเพียงไม่นาน มีการปลอมแปลงเอกสาร จัดทำใบอนุโมธนาบุญเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยจะตระเวนเรี่ยไรเงินตามจุดต่างๆไปเรื่อยๆ ทั่วประเทศ
กรณีเหล่านี้เคยมีการร้องเรียนแจ้งเบาะแสมายังมูลนิธิหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยข้อกฎหมายที่มีบทลงโทษในผู้กระทำผิดไม่รุนแรง บุคคลเหล่านี้จึงกลับมาก่อเหตุซ้ำ เพราะเห็นว่าคนไทยใจบุญ สงสาร และมีเมตตา จึงมีคนฉวยโอกาสกับการทำบุญกุศล เมื่อเป็นเช่นนี้อยากเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังระวังก่อนบริจาคเงิน เพราะถ้าเป็นการบริจาคของมูลนิธิแท้จริง จะต้องเดินทางเข้าไปที่สำนักงานเท่านั้น ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รับเงินทำบุญ มีชุดธูปเทียนที่จัดไว้ให้ สำหรับบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในกรณีที่บริจาคโรงศพ จะมีการออกใบเสร็จรับเงินให้ด้วย
หากประชาชนต้องการทำบุญให้ถูกช่องทาง ให้เดินทางไปที่สำนักงานของมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งมี 3สาขา ที่สาขาสามย่าน แยกสามย่าน หัวลำโพง , สาขาถนนอาจณรงค์ ติดกับสำนักงานเขตคลองเตย และสาขาบางพลี ถนนบางนา-ตราด ด้านหลังโฮมโปร
“ใบเสร็จรับเงินบริจาคสามารถนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นใบเสร็จที่ถูกต้องและออกโดยมูลนิธิเท่านั้น” นายอัญวุฒิ กล่าว ทั้งนี้มีข้อมูลการบริจาคเงินที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ จากเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ให้ลายละเอียดไว้ดังนี้
เงินบริจาค เมื่อหักลดหย่อนต่าง ๆ หมดแล้ว เหลือเท่าใดให้หักลดหย่อนได้อีก สำหรับเงินบริจาคที่หักค่าลดหย่อนได้นั้น ผู้มีเงินได้ต้องบริจาคเป็นเงินให้แก่การกุศลสาธารณะ โดยหักได้เท่าจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้ว
การบริจาค ได้แก่
(1) การบริจาคเงินให้แก่วัดวาอาราม สภากาชาดไทย สถานพยาบาล และสถานศึกษาของทางราชการ หรือองค์การของรัฐบาล สถานศึกษาเอกชน สถานสาธารณกุศล และกองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ (ต้องเป็นองค์การสถานสาธารณกุศลตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา)
(2) การบริจาคเงินให้แก่คณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างสวนสาธารณะเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 พรรษา
(3) การบริจาคเงินให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในโครงการปลูกป่าเทิดพระเกียรติเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 90 พรรษา
(4) การบริจาคเงินให้แก่กองทัพอากาศในโครงการก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริฯ
(5) การบริจาคเงินให้แก่กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา
(6) การบริจาคเงินให้แก่กองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50
(7) การบริจาคเงินให้แก่โครงการอาคารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชย์สมบัติครบ 50 ปี ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
(8) การบริจาคเงินให้แก่โครงการสืบสานพระราชปณิธาน "กาญจนาภิเษก"
(9) การบริจาคเงินให้แก่โครงการร้อยใจช่วยเยาวชนไทยในภาวะวิกฤต
(10) การบริจาคเงินให้แก่โครงการโพธิ์ทองของชาวไทย
(11) การบริจาคเงินให้แก่โครงการปลูกป่าชายเลนถาวรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสทรงพระชนม์มายุ 72 พรรษา
(12) การบริจาคเงินให้แก่ส่วนราชการที่จัดขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
(13) การบริจาคเงินให้แก่กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ กองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม กองทุนคุ้มครองเด็ก และกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ
(14) การบริจาคเงินเพื่อการกีฬา ให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อส่งเสริมการกีฬา คณะกรรมการกีฬาจังหวัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมกีฬาในจังหวัด สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการเพื่อการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน หรือสมาคมกีฬาสมัครเล่น
(15) การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่นที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป โดยมีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นตัวแทนรับเงิน ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด
การบริจาคนั้นขึ้นอยู่กับความพอใจ หากผู้ให้เต็มใจให้ ด้วยกำลังทรัพย์ที่มี แม้ว่าเจตนาของผู้เรียกรับจะไม่บริสุทธิ์ แต่ก็ถือว่าได้ให้แล้ว.
แหล่งที่มา :
เดลินิวส์ออนไลน์
